รีวิว 13 Sentinels: Aegis Rim

เราจะมาพูดถึงเกมแนว Visual Novel ที่หลาย ๆ คนอาจจะเข้าถึงได้ยาก เพราะเกมแนวนี้จะเน้นไปที่การอ่านและฟังเพื่อติดตามเรื่องราวของเกมเป็นหลัก ซึ่งมันก็จะเต็มไปด้วยบทสนทนาและตัวหนังสือให้เราอ่านอยู่มากมาย แต่ถ้าใครที่ชอบเกมแนวเนื้อเรื่องก็น่าจะเข้าถึงได้ไม่ยาก เพราะเกมแนว Visual Novel ก็จะเน้นไปที่เนื้อเรื่องที่สนุกสนานและน่าติดตาม ที่มีความเข้มข้นอีกด้วย ทำให้เกม 13 Sentinels: Aegis Rim เป็นอีกหนึ่งเกมที่น่าจับตามอง เพราะทีมงานมีชื่อเสียงในด้านของงานภาพ มีสไตล์ที่โดดเด่น อย่าง Vanillaware ซึ่งผู้พัฒนาก็ได้เอาแนว Visual Novel มาผสมเข้ากับเกมกลยุทธ์วางแผน แบบเทิร์นเบส ที่เต็มไปด้วยงานภาพกราฟฟิกที่ทำออกมาได้อย่างดี แล้วเกมนี้จะสามารถเป็นอีกหนึ่งเกมที่ผู้เล่นจดจำและชื่นชอบมันได้หรือไม่ ต้องมาติดตามกัน

รายละเอียดเกม 13 Sentinels: Aegis Rim

โดยเรื่องราวของเกมจะเล่าผ่านตัวละครหลัก 13 ตัว ที่เป็นกลุ่มวัยรุ่นมัธยมปลาย ซึ่งพวกเขาก็ได้มีความสามารถในการขับหุ่นที่เรียกว่า Sentinels เพื่อจะไปต่อสู้กับไคจู หรือเจ้าสัตว์ประหลาดตัวยักษ์ โดยทุกเหตุการณ์ในเกมนี้ก็จะเต็มไปด้วยความหักมุมและความน่าติดตามอยู่ตลอดเวลา ซึ่งทีมงานก็สามารถนำ Theme หลายอย่างเข้ามารวมไว้ในเกมนี้ และได้ถ่ายทอดมันออกมาผ่านเรื่องราวทั้งหมดนี้ให้มีความน่าติดตามและเข้มข้นสนุกสนาน ตั้งแต่ต้นเรื่องจนถึงตอนจบ มีทั้งความผสมวิทยาศาสตร์แบบ Sci fi สงคราม ความรัก และยังมีประวัติศาสตร์สอดแทรกเข้ามาด้วย และยังมีวัฒนธรรมจากภาพยนตร์ชื่อดังเข้ามาประกอบรวมในเกมนี้ แม้ว่าช่วงต้นเรื่องจะทำให้รู้สึกสับสนไปบ้างแต่เมื่อติดตามเรื่องราวไปเรื่อย ๆ ก็จะมีความตื่นเต้น มีทั้งความลึกซึ้ง แถมยังซับซ้อนในบางครั้ง ซึ่งทำออกมาได้อย่างกลมกล่อม

13 Sentinels: Aegis Rim

เกมนี้ก็ถือได้ว่าเป็นเกมที่โฟกัสไปที่การเล่าเรื่องเป็นส่วนใหญ่ แต่ตัวเกมก็ไม่ได้ดำเนินเรื่องราวเป็นเส้นตรงนัก  เพราะตัวเกมก็จะถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน มี Remembrance ความทรงจำ ให้ผู้เล่นได้สลับเล่นเพื่อดูมุมมองในแต่ละตัวละคร ซึ่งจะมีความ Visual Novel บวกกับความ ผจญภัย มีการเลือกให้เลือก หรือมีการ interactive ภายในฉาก ต่อมาคือส่วนของ Destruction หรือที่เรียกว่าส่วนของการต่อสู้ ซึ่งจะเป็นภารกิจให้ได้ทำไปเรื่อย ๆ จะเป็นการเล่นแบบเทิร์นเบส แบบกลยุทธ์ และส่วนสุดท้ายคือ Analysis หรือการวิเคราะห์ ซึ่งจะเป็นการปลดล็อคฉากต่าง ๆ ของเกม โดยที่ทั้ง 3 ส่วนนี้จะถูกผูกเข้าด้วยกัน โดยที่ผู้เล่นจะได้เล่นส่วนนึงเพื่อปลดล็อคของอีกส่วนนึง สลับไปมา ซึ่งมันจะไม่สปอยล์ส่วนอื่น เพราะตัวเกมทำออกมาหรือดีไซน์ออกมาได้อย่างดีมาก ซึ่งทุกอย่างมันก็จะถูกโยงเข้าหากัน เพราะส่วนนี้ที่รวมเข้ากับ dialogue และ วอยซ์แอ็คติ้งของตัวละครแต่ละตัว ก็จะทำให้ตลอดการเล่นเกมนี้ไม่ได้รู้สึกเบื่อเลย ยิ่งถ้าเล่นไปเรื่อย ๆ และได้เจอกับปริศนาใหม่ ๆ ก็จะทำให้เราอยากจะรู้เนื้อเรื่องและอยากจะรู้ว่าในมุมมองของแต่ละตัวละครจะเป็นอย่างไร

ในส่วนของเกมเพลย์ 13 Sentinels: Aegis Rim ตัวเกมที่ถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ แต่ส่วนที่ผู้เล่นจะต้องใช้เวลามากที่สุดในการเล่นก็คือส่วนของ Remambrance หรือส่วนของการเล่าเรื่อง ซึ่งส่วนนี้ก็ยังมีการแบ่งอารมณ์ของการเล่นหรือวิธีที่จะได้ข้อมูลมาจากของแต่ละตัวละครแตกต่างกันอีกด้วย อย่างเช่น บางตัวอาจจะทำให้เราได้อารมณ์การเล่นแบบนักสืบ ที่จะต้องคอยหาเบาะแสและสอบสวนตัวละครอื่น หรือบางตัวก็จะให้ความรู้สึกเหมือนติดอยู่ในช่วงเวลาที่จะต้องย้อนไปย้อนมาจนกว่าจะทำภารกิจได้สำเร็จ ส่วนบรรยากาศโดยรวมก็สร้างมาได้แตกต่างกันอีกด้วย บางตัวก็จะเป็นแบบเรื่องราวความรักของวัยรุ่น บางตัวละครก็มีความเข้มข้นและ Sci fi แต่การเล่นจะเหมือนกันเลย ผู้เล่นจะได้เดินสำรวจภายในฉาก สิ่งของ เพื่อให้ได้คีย์บเวิร์ดมา โดยการคุยกับตัวละครอื่น ๆ รวมไปถึงการเลือกช้อยส์ หรือสถานที่ที่เราจะต้องไปต่อ และส่วนต่อมาคือ Destruction ซึ่งเป็นส่วนของการต่อสู้ โดยจะเป็นแบบเทิร์นเบสแบบวางแผนกลยุทธ์ โดยการเลือกคำสั่งในการเคลื่อนที่ และโจมตี โดยในทุกภารกิจผู้เล่นจะต้องเลือก Sentinels 12 ตัวจากทั้งหมด 13 ตัวเพื่อนำไปลงสมรภูมิ โดยที่อีก 6 ตัวจะเป็นฝ่ายรุก ส่วนอีก 6 ตัวที่เหลือจะเป็นฝ่ายรับ ที่จะต้องต่อสู้กับไคจู โดย Sentinels จะถูกแบ่งออกเป็น 4 คลาสหลัก ๆ คือ การต่อสู้ระยะประชิด all louder ซึ่งก็จะมีความบาลานซ์ และตัวที่เน้นต่อสู้ระยะไกลและตัวไฟเตอร์ที่จะเน้นการสนับสนุน โดยผู้เล่นจะต้องวางแผนในการที่จะเลือกยูนิตต่าง ๆ เพื่อลงสนามให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์และตัวศัตรู โดยตัวศัตรูเองก็มีหลายชนิดเช่นกัน ทำให้วิธีการในการจัดการศัตรูก็ต้องมีความแตกต่างกัน โดยทุก ๆ การต่อสู้ก็ถือว่าทำออกมาได้น่าตื่นเต้น ทำให้ผู้เล่นต้องคอยคิดวิธีกลยุทธ์ใหม่ ๆ อยู่ตลอด เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่ได้พบเจอ และยิ่งในระดับความยากก็สำคัญ เช่น เริ่มต้นด้วยความง่ายและจากค่อย ๆ ซับซ้อนมากขึ้น แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าทำออกมาได้สนุกมาก ๆ ทำให้พูดเล่นอยากเอาชนะ ซึ่งส่วนนี้ก็มีความลึกพอสมควรที่ต้องใช้วางแผนในแต่ละครั้ง และมีระบบอัพเกรดที่จะต้องใช้ชิปที่จะได้จากการเล่น ในโหมดต่อสู้ ซึ่งจะได้เยอะกว่าจากโหมดเนื้อเรื่อง โดยผู้เล่นสามารถอัพเกรดค่าพลังได้ หรือท่าไม้ตาย ซึ่งมันก็จะส่งผลกับการอัพเดทสิ่งต่าง ๆ ในระหว่างการต่อสู้ก็จะมีบทสนทนาที่จะช่วยเพิ่มความสนุกและโยงเข้ากับเนื้อเรื่องได้อีกด้วย

13 Sentinels: Aegis Rim

รายละเอียดเกม 13 Sentinels: Aegis Rim

ในส่วนของระบบกราฟฟิกและภาพ ก็ไม่ได้มีกราฟฟิกแบบ 3D แต่ก็มีสิ่งที่โดดเด่นมาก ๆ คือเรื่องของงานอาร์ตของเกมนี้ ที่เต็มไปด้วยลายเซ็นต์ของ Vanillaware ทั้งคาแรกเตอร์ดีไซน์ที่สวยงามและสภาพแวดล้อมต่าง ๆ การเลือกใช้โทนสีรวมถึงแสงและเงาในทุก ๆ ฉากของโหมดเนื้อเรื่อง เหมือนดูภาพวาดและการ์ตูนที่เต็มไปด้วย Impact และอารมณ์ที่ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างเต็มเปี่ยม เพอร์ฟอร์แมนซ์ของเกมโดยรวมถือว่ามีความลื่นไหล ที่มี 60 FPS อาจจะมีเฟรมเรทดรอปลงบ้าง ในบางฉากที่มีรายละเอียดสูง และฉากต่อสู้ก็จะใช้กราฟฟิกแบบ 3D ที่เหมือนกับมองผ่านหน้าจอมอนิเตอร์ ทำให้ได้อารมณ์เหมือนเกมกระดาน ซึ่งจะใช้ไอคอนต่าง ๆ แทนตัวละคร แต่ถ้าหากใช้เป็นการนำเสนอด้วยภาพจริงในการต่อสู้อาจจะเหมาะมากกว่านี้ แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าทำออกมาได้ดีและลื่นไหล และส่วนที่ทำออกมาได้ดีที่สุดของเกมคืองานด้าน Sound effect ทั้งวอยซ์แอ็คติ้งที่ทำออกมาได้ยอดเยี่ยม ทั้งเสียงพากย์ภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่น ซึ่งแต่ละตัวก็จะมีเอกลักษณ์มีชีวิตชีวา และมีเสียงฉากหลังด้วย และเสียงของ Soundtrack และแอมเบียนของแต่ละฉากก็ช่วยทำให้เกมนี้ทำออกมาได้ดีมาก และในฉากต่อสู้นำเสนอภาพก็ถือว่าทำออกมาได้ดีและสะใจมาก ๆ

เกม 13 Sentinels: Aegis Rim นี้ก็ถือว่ายังถูกจัดอยู่ในอันดับต้น ๆ และโดยรวมก็ถือว่า ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม แถมยังเป็นการรวมแนวเกมนอกกระแสที่เป็นแบบ Visual Novel ที่เป็นแบบกลยุทธ์ กับเนื้อเรื่องที่มีความลึกและทำออกมาได้ยอดเยี่ยม มีทั้งความสนุกตื่นเต้นและน่าติดตาม แถมยังหักมุมอีกด้วย รวมทั้งบทพูดที่เขียนออกมาดีและแสดงผ่านวอยซ์แอ็คติ้งที่ยอดเยี่ยม ส่วนการต่อสู้ก็มีความสนุก ตื่นเต้น ผ่านงานภาพและเสียงก็ทำออกมาได้อย่างงดงาม แม้ผู้เล่นจะไม่ได้เคยเล่นเกมแนวนี้ หรือไม่ได้ชอบอ่านบทสนทนาที่เยอะ แต่ถ้าชอบเนื้อเรื่องที่น่าสนใจมีความ Sci fi เกมนี้ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่ควรจะลองเล่นสักครั้งและอาจจะสร้างความประทับใจได้ง่าย ๆ อีกด้วย